ปวดท้องประจำเดือนบ่อยๆ สัญญาณความผิดปกติที่ควรพบแพทย์

อาการปวดท้องประจำเดือนเล็กน้อยที่ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกตินับเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะเมื่อมีไข่ตกแต่ไม่เกิดการปฏิสนธิ ก็จะเกิดการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูกเพื่อขับเนื้อเยื่อภายในโพรงมดลูกออกมาเป็นประจำเดือนนั่นเอง สุขภาพผู้หญิง หัวข้อที่น่าสนใจ ปวดประจำเดือนปกติกับไม่ปกติต่างกันอย่างไร?  ปวดประจำเดือนมากหรือเรื้อรัง เสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง? สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ปวดประจำเดือนรุนแรงหรือเรื้อรัง ปวดประจำเดือนแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์? วิธีตรวจหาสาเหตุอาการปวดท้องประจำเดือน ปวดประจำเดือนปกติกับไม่ปกติต่างกันอย่างไร?  ในทางการแพทย์ มีการแบ่งอาการปวดประจำเดือนออกเป็น 2 ประเภท คือ ปวดประจำเดือนแบบปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea) มักเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกผลิตสารโพรสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ในปริมาณที่มากเกินไปในวันแรกๆ ของการมีประจำเดือน เพื่อให้มดลูกมีการหดเกร็งและขับประจำเดือนออกมา จึงทำให้รู้สึกปวดท้องน้อย โดยระดับโพรสตาแกลนดินส์จะลดลงเมื่อร่างกายได้ขับเอาเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกออกมาแล้ว การเกร็งตัวของมดลูกและอาการปวดจึงลดลงด้วย ซึ่งหากอาการปวดไม่รุนแรงมากก็ยังถือว่าเป็นการปวดประจำเดือนแบบปกติ